tag:blogger.com,1999:blog-7536256045711777122024-02-07T10:54:34.656-08:00สุขภาพและความงามwww.bodycare108.comOsakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comBlogger141125tag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-67824181555302244552022-08-30T21:02:00.006-07:002022-08-30T21:48:43.519-07:00ผลไม้ให้โทษ ยิ่งกินยิ่งอันตราย<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ผลไม้เป็นผลผลิตจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยวิตามินและไฟเบอร์ การทานผลไม้เป็นประจำจึงช่วยเสริมสร้างกระบวนการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ ชะลอการเสื่อมของเซลล์และป้องกันการเกิดโรคบางชนิด</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjbV87-dl6RlTI7z3joYQ-uNjbOGCeEi_R1tWKh_SkoLOJgIPCZuyOBFneXnpdEjFCjes0JkQWhMGAZugOQFA4n9RAXzqaosAVbHCDjxxe8v5QVabOYT_LahdovM5RH8wcNJWmawEgxwMUqSaiZ8dB79D7dw6H5H1dBtCbsaYH5vHBZy6Z8RsvLmgLBrA/s500/Fruit-Danger.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="ผลไม้ให้โทษ ยิ่งกินยิ่งอันตราย" border="0" data-original-height="500" data-original-width="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjbV87-dl6RlTI7z3joYQ-uNjbOGCeEi_R1tWKh_SkoLOJgIPCZuyOBFneXnpdEjFCjes0JkQWhMGAZugOQFA4n9RAXzqaosAVbHCDjxxe8v5QVabOYT_LahdovM5RH8wcNJWmawEgxwMUqSaiZ8dB79D7dw6H5H1dBtCbsaYH5vHBZy6Z8RsvLmgLBrA/s16000/Fruit-Danger.jpg" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ภาพ: <a href="https://www.unlockfood.ca">Unlock Food</a></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แต่ผลไม้ที่ทานเข้าไปนั้นหาใช่มีเพียงประโยชน์ต่อร่างกายไม่ เนื่องจากพฤติกรรมการทานผลไม้ของผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลเสียของร่างกายมากกว่าการทานแล้วได้รับประโยชน์</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><b><u>พฤติกรรมการกินผลไม้ให้โทษ</u></b></span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• กินมากเกินไป: ผลไม้มีวิตามินที่มีประโยชน์ แต่การกินในปริมาณที่มากเกินไปจะกลายเป็นโทษมากกว่า โดยเฉพาะผลไม้ชนิดที่มีความหวานหรือปริมาณน้ำตาลสูง แม้จะได้วิตามินและไฟเบอร์ แต่ร่างกายต้องรับภาระหนักในการควบคุมและกำจัดปริมาณน้ำตาลส่วนเกิน</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• เครื่องจิ้ม: ผลไม้หลายชนิดมักจะกินโดยขาดพริกเกลือหรือน้ำจิ้มรสเด็ดไม่ได้ เรียกว่ากินผลไม้คู่กับเครื่องจิ้มจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่รู้กันดีว่าในเครื่องจิ้มนั้นมีทั้งน้ำตาล เกลือ น้ำปลา ผงชูรส ฯลฯ แทนที่จะได้รับประโยชน์จากผลไม้กลับกลายเป็นโทษมากกว่า</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ผลไม้หลังอาหาร: ในผลไม้จะมีกรดชนิดที่สามารถย่อยตัวเองได้ การทานผลไม้หลังอาหารจะทำให้กรดถูกดึงไปย่อยอาหารแทน ผลไม้ที่กินเข้าไปจึงถูกย่อยช้าจนเกิดการบูดเน่า ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด จุก เสียด แน่นท้องและความผิดปกติเกี่ยวกับระบบย่อย</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• น้ำผลไม้: การดื่มน้ำผลไม้แยกกากใย (เนื้อ) ออกไปแล้วอาจทำให้ได้รับวิตามินและรสชาติหวานอร่อย แต่สิ่งที่ได้รับไปเต็มๆเช่นกันคงหนีไม่พ้นน้ำตาลที่ร่างกายดูดเข้ากระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นแทนที่จะดื่มน้ำผลไม้แล้วทิ้งกาก ลองเปลี่ยนมากินกากแล้วทิ้งน้ำผลไม้จะมีประโยชน์</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-53076964786228426162022-07-05T23:20:00.005-07:002022-08-28T06:14:09.139-07:00Biotin ไบโอติน วิตามินเสริมสร้างเส้นผม<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ไบโอติน (Biotin) วิตามินในตระกูลวิตามินบี คือ "วิตามินบี7" (Vitamin B7) บางครั้งเรียกว่า "วิตามินเอช" (Vitamin H) จัดเป็นวิตามินที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้าง "เคราติน" โครงสร้างหลักที่ช่วยให้ผิว เล็บและเส้นผมแข็งแรง</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh5i4dUeXwWGiqzLxYAzz4hWhMU6f7NW-qQcPTySv4yyKfFQutGIeVaml7WRiVz4Ph8aXbf5KykxureZToS3X9brTr0uMVxszo-EZlgp8kKbehhBmNyZZdA9O4CEGG0jmSe3lwDad_Jq8Yz3k0ZkageZT1wjF5moCfrEvldUtzuZ7WztA0_IsZx58r_Kw/s465/Biotin.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="ไบโอติน (Biotin)" border="0" data-original-height="465" data-original-width="465" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh5i4dUeXwWGiqzLxYAzz4hWhMU6f7NW-qQcPTySv4yyKfFQutGIeVaml7WRiVz4Ph8aXbf5KykxureZToS3X9brTr0uMVxszo-EZlgp8kKbehhBmNyZZdA9O4CEGG0jmSe3lwDad_Jq8Yz3k0ZkageZT1wjF5moCfrEvldUtzuZ7WztA0_IsZx58r_Kw/s16000/Biotin.jpg" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ภาพ: <a href="https://www.vitdripcenter.com">Vitamin Iv Drip</a></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ไบโอตินเป็นสารอาหารที่มีอยู่ในธัญพืช ไข่แดง กล้วย ผักและเครื่องในสัตว์ แต่ไบโอตินเป็นวิตามินที่จะลดคุณค่าลงเมื่อได้รับความร้อน กระบวนการปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนจึงทำให้ปริมาณไบโอตินลดลง</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ดังนั้นความต้องการปริมาณไบโอตินในรูปของอาหารเสริมจึงได้รับความนิยมมาก การได้รับปริมาณไบโอตินที่เพียงพอทำให้กระบวนการเสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นผมมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม ผมดกหนาขึ้นได้</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">สำหรับบางรายแม้จะเสริมไบโอตินเข้าไปแล้วแต่ปริมาณการหลุดร่วงของเส้นผมยังคงไม่ลดลง สาเหตุอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ อาการเจ็บป่วยหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต (ผมร่วมเกิดจากหลายสาเหตุ)</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แม้ไบโอตินจะเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ แต่มีข้อควรระวังใช้ในกลุ่มผู้ป่วย<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/08/diabetes.html">โรคเบาหวาน</a> เนื่องจากไบโอตินจะเข้าไปกระตุ้นระบบเผาผลาญด้วยการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นกลูโคส ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-14891128667034734912022-06-12T07:35:00.005-07:002022-08-28T06:15:00.418-07:00ดูแลหัวใจให้แข็งแรงตามแบบฉบับแพทย์แผนจีน<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">มีการเปรียบเปรยว่า "ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ" ขณะที่ศาสตร์การแพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่า "หัวใจเป็นจ้าวแห่งอวัยวะภายใน" ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆทั่วร่างกาย</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj6sNbZQsg8jMEz0GP12R286zH10jG8TyrqupEVDxIVzexhlUm5_0lP9VJgV9J6Zn4ye5ZWoXSnR1jQlzwVc_bXqdIHAIdxQTjWiNcWVhDFe7eTQYpLoq4J2F1DaHTxwcZb2KTc1JgzevaPWNNiXpWHCVzM6gz670kVlelUFoGrec1XJbILwvqDQDEtxA/s639/Treat-Heart-by-Chinese-Medicine.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ดูแลหัวใจให้แข็งแรงตามแบบฉบับแพทย์แผนจีน" border="0" data-original-height="456" data-original-width="639" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj6sNbZQsg8jMEz0GP12R286zH10jG8TyrqupEVDxIVzexhlUm5_0lP9VJgV9J6Zn4ye5ZWoXSnR1jQlzwVc_bXqdIHAIdxQTjWiNcWVhDFe7eTQYpLoq4J2F1DaHTxwcZb2KTc1JgzevaPWNNiXpWHCVzM6gz670kVlelUFoGrec1XJbILwvqDQDEtxA/s16000/Treat-Heart-by-Chinese-Medicine.jpg" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นกับหัวใจจึงสามารถสังเกตผลข้างเคียงที่ปรากฏออกมาได้จากลักษณะการเต้นของชีพจร ความเข้มของสีหน้า ความรู้สึกอัดแน่นบริเวณทรวงอกและปฏิกิริยาของลิ้น เป็นต้น</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลและป้องกันความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นกับหัวใจจึงมีเคล็ดลับเบื้องต้นสำหรับการดูแลสุขภาพของหัวใจง่ายๆตามแบบฉบับแพทย์แผนจีนมาแนะนำกัน ดังนี้</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรออกกำลังกายหนักจนเกินไปจนกลายเป็นการสร้างภาระให้หัวใจทำงานหนัก ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในช่วงรุ่งสางเนื่องจากเป็นช่วงความดันและความเข้มข้นของเลือดสูง</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">2. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทั้งหลายแหล่ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดโรค อาทิ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ของหวาน (น้ำตาล) ของมัน ของทอด โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">3. หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ร้อนจัดและเย็นจัดอย่างกะทันหัน เช่น ออกจากห้องที่มีเครื่องปรับอากาศมาเจอสภาพที่ร้อนอย่างฉับพลัน ไม่ควรอยู่ในซาวน่าหรือจุดที่มีบริมาณออกซิเจนน้อย</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">4. ทานอาหารที่มีไฟเบอร์ในปริมาณที่เพียงพอเป็นประจำเพื่อป้องกันท้องผูก ไม่ควรเบ่งถ่ายแรงๆเนื่องจากการออกแรงเบ่งมากเกินไปจะทำให้หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ เกิดความดันโลหิตสูง</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">5. กดนวดจุด "เน่ยกวน" เส้นลมปราณหัวใจ (อยู่ห่างจากเส้นข้อมือระหว่างเอ็นทั้งสอง) เบาๆข้างละ 3-5 นาที เพื่อกระตุ้นเลือดลมไปเลี้ยงหัวใจ บรรเทาอาการแน่นท้อง ผ่อนคลาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและปอด</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-50754218137194745502022-05-15T08:14:00.003-07:002022-08-28T06:32:45.889-07:00Blackmores Multivitamin Nutri 50+ ผลิตภัณฑ์ช่วยคงสภาพการมองเห็น<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ผลิตภัณฑ์ Blackmores Multivitamin Nutri 50+ (แบลคมอร์ส มัลติวิตามิน นิวทริ 50+) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยคงสภาพการมองเห็นจากความเหนื่อยล้าดวงตา ด้วยวิตามินรวมและแร่ธาตุจากสมุนไพรทรงคุณค่า</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjpt35Hfl2x5nP5JBon1ODh6fSmxAvZT-eriQFHu4BFYqKZcJ5V7tYSZHd60ke1Olx6cjql78RW3-cRw4HPbTLPp7PbVf6Girh68r7gFJ0LtMM1NRw3iea7SnWQ7yA9valBR-Pn0hMI3JcFfD7KbJjkJ4N8KtBos5u6eVt367WnBUBvTycdKZoYmUdQ6g/s600/Blackmores-Multivitamin-Nutri-50.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="Blackmores Multivitamin Nutri 50+ (แบลคมอร์ส มัลติวิตามิน นิวทริ 50+)" border="0" data-original-height="600" data-original-width="600" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjpt35Hfl2x5nP5JBon1ODh6fSmxAvZT-eriQFHu4BFYqKZcJ5V7tYSZHd60ke1Olx6cjql78RW3-cRw4HPbTLPp7PbVf6Girh68r7gFJ0LtMM1NRw3iea7SnWQ7yA9valBR-Pn0hMI3JcFfD7KbJjkJ4N8KtBos5u6eVt367WnBUBvTycdKZoYmUdQ6g/s320/Blackmores-Multivitamin-Nutri-50.jpg" width="320" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ผลิตภัณฑ์ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างและชดเชยสารอาหารสำคัญที่ร่างกายอาจจะได้รับไม่เพียงพอในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสารอาหารในส่วนของการมองเห็นที่จะสนับสนุนประสิทธิภาพการทำงานของดวงตา</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><b><u>ส่วนประกอบสำคัญ</u></b></span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• แคลเซียม (150 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• แมกนีเซียม (60 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• วิตามินซี (60 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ลูทีน (3 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ซีแซนทิน 150 (มคก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สารสกัด<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2020/08/ginkgo-biloba.html">ใบแปะก๊วย</a> (40 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สารสกัด<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2014/09/lingzhi.html">เห็ดหลินจือ</a> (20 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สารสกัด<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2014/09/ginseng.html">โสมเกาหลี</a> (20 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สารสกัดปักคี้ (20 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สังกะสี (7 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• นิโคทินาไมด์ (20 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• เหล็ก (5 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• วิตามินอี (12.1 ไอ.ยู.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• วิตามินเอ (1667.5 ไอ.ยู.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• กรดแพนโททีนิค (6 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• แมงกานีส (2 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ทองแดง (1 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• วิตามิน บี 6 (2 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• วิตามิน ดี 3 (200 ไอ.ยู.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• วิตามิน บี 1 (1.5 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• วิตามิน บี 2 (1.7 มก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• โครเมียม 50 (มคก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• กรดโฟลิก (200 มคก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• <a href="http://bodycare108.blogspot.com/2022/07/biotin.html">ไบโอติน</a> (140 มคก.)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ซีลีเนียม (50 มคก.)</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ผลิตภัณฑ์อยู่ในรูปแบบเม็ด รับประทานง่ายเพียงวันละ 1 เม็ด (เท่านั้น) เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแนะนำให้รับประทานผลิตภัณฑ์ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอ</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-26563026464995713482021-08-04T22:18:00.005-07:002022-08-28T06:35:04.007-07:00ยาห้าราก ตำรับสมุนไพรกระทุ้งพิษ แก้ไข้ ต้านหวัด<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"ยาห้าราก" (ยาเบญจโลกวิเชียร, ยาแก้วห้าดวง, ยาเพชรสว่าง) ตำรับยาสมุนไพรไทยห้าสหายออกฤทธิ์กระทุ้งพิษในร่างกายออกมา สรรพคุณบรรเทาอาการปวด ลดไข้ ต้านการอักเสบ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgCf5oeVVZyiEA2G9AbjVNLpsiD7RcGoXSw0InwEQ7ANwBabMCyH2uzajAo2qcmeyREMas11b-fa9i6pfc7R4mRUtm0gSLtNvCVqHDpj5dNNTI0NXgjedLk6DtuWLrSAZa0ETTNI6CfyTRN/s600/Five-Roots-Herbal.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="ยาห้าราก ตำรับสมุนไพรกระทุ้งพิษ แก้ไข้ ต้านหวัด" border="0" data-original-height="600" data-original-width="600" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgCf5oeVVZyiEA2G9AbjVNLpsiD7RcGoXSw0InwEQ7ANwBabMCyH2uzajAo2qcmeyREMas11b-fa9i6pfc7R4mRUtm0gSLtNvCVqHDpj5dNNTI0NXgjedLk6DtuWLrSAZa0ETTNI6CfyTRN/s320/Five-Roots-Herbal.jpg" width="320" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ภาพ: <a href="https://www.khaolaor.com">สมุนไพรขาวลออ</a></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">พิกัดยาห้ารากปรากฏอยู่ใน "คัมภีร์ตักศิลา" ได้รับการขึ้นทะเบียนอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ประกอบด้วยรากสมุนไพรรสเย็น 5 ชนิด (รากมีสรรพคุณทางยาเข้มข้นที่สุด) เรียกชื่อย่อเพื่อจดจำได้ง่ายว่า "ยายพรชิงนางคนทา" นำมาผสมรวมในอัตราส่วนที่เท่ากัน</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><b><u>สรรพคุณสมุนไพร</u></b></span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• รากเท้ายายม่อม: แก้พิษกาฬ พิษไข้ ร้อนในกระหายน้ำ ขับเสมหะ อาเจียน แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย อาการอักเสบ ปวดบวม</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• รากมะเดื่อชุมพร: แก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้ท้องร่วง กล่อมเสมหะและโลหิต บำรุงสตรีหลังคลอด</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• รากชิงชี่: แก้ไข้ ไอ หืด หลอดลมอักเสบ ขับลม ขับปัสสาวะ รักษาดวงตา รักษาโรคกระเพาะ บวมช้ำ ต้านเชื้อมะเร็ง</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• รากย่านาง: แก้ไข้พิษ ไข้กาฬ ไข้เหนือ อีสุกอีใส แก้เมาสุรา ต้านเชื้อมาลาเรีย (จัดเป็นยาอายุวัฒนะ) <a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/05/yanang.html">ย่านาง</a></span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• รากคนทา: ขับโลหิต ขับลม แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ท้องร่วง แก้บิด แก้โรคทางเดินลำไส้ สมานบาดแผล ลดอุณหภูมิร่างกาย</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ตำรับยาห้ารากเป็นสมุนไพรล้วนจึงมีความปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้างเหมือนยาเคมี สามารถทานติดต่อกันได้ในระยะยาว ใช้วิธีการนำส่วนผสมทั้ง 5 มาตากแห้งแล้วชั่งน้ำหนักให้เท่ากัน ต้มลงในน้ำให้เหลือเพียง 1 ใน 3 ก็เป็นอันใช้ได้</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แต่หากไม่ต้องการเสียเวลาต้มยาดื่มเองหรือไม่ชอบการดื่มยาที่เป็นน้ำเพราะกลัวทั้งกลิ่นและรสชาติ สามารถเลือกทานแคปซูลยาห้ารากที่ทำสำเร็จรูปมาแล้วก็ได้เช่นกัน</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-85021999174134958312021-07-22T19:42:00.003-07:002022-08-28T06:36:35.736-07:00AloEx Dietary Supplement ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงเส้นผมจากภายใน<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ AloEx Dietary Supplement อาหารเสริมยับยั้งปัญหาเส้นผมขาดหลุดร่วงและกระตุ้นให้เกิดกระบวนการเสริมสร้างเส้นผมใหม่ ผ่านการคิดค้นและวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญจนได้สุดยอดสารอาหารบรรจุอยู่ในแคปซูลรับประทานง่าย</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj0_1vYEnG3qGSBUZhqVxhOiv2XLFDvWVw6dhJcN4JnDkwVGnnNQRn4rwm8vd0sLuSX8d5BYfE7R7O1ef9e20j7ipTAHWQz9GmQtXad6G9sT1hoVsIFES0s8bwitQFILL0CMSUKPqIz74Yu/s800/AloEx-Dietary-Supplement.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="AloEx Dietary Supplement ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ" border="0" data-original-height="800" data-original-width="800" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj0_1vYEnG3qGSBUZhqVxhOiv2XLFDvWVw6dhJcN4JnDkwVGnnNQRn4rwm8vd0sLuSX8d5BYfE7R7O1ef9e20j7ipTAHWQz9GmQtXad6G9sT1hoVsIFES0s8bwitQFILL0CMSUKPqIz74Yu/s16000/AloEx-Dietary-Supplement.jpg" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร AloEx Dietary Supplement เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นผมขาดหลุดร่วงในทุกระยะ ด้วยคุณค่าสารสกัดสมุนไพรและวิทยาการสมัยใหม่จนได้สารสกัดจากธรรมชาติในการดูแลรักษาสุขภาพเส้นผมจากภายในสู่ภายนอก รับประทานเพียงวันละ 1 แคปซูล</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><b><u>ส่วนประกอบสำคัญใน 1 แคปซูล</u></b></span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สารสกัดจากหอยนางรม (Oyster Extract)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ผงกระดูกอ่อนปลาฉลาม (Shark Cartilage Powder)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สารสกัดว่านหางจระเข้ (Aloe Extract)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ผง<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2021/07/horsetail.html">หญ้าหางม้า</a> (Horsetail Powder)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ผงเมล็ดฟักทอง (Pumpkin Seed Powder)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ผงมะระขี้นก (Bitter Melon Powder)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สารสกัดใบบัวบก (Gotu Kola Extract)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สารสกัด<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2015/08/astaxanthin.html">แอสตาแซนธิน</a> (Haematococcus Pluvialis Extract)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• <a href="http://bodycare108.blogspot.com/2022/07/biotin.html">ไบโอติน</a> (Biotin)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ไอรอน อะมิโน แอซิด คีเลต (Iron Amino Acid Chelate)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ไนอาชินาไมด์ (Niacinamide)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ซิงค์ อะมิโน แอซิด คีเลต (Zinc Amino Acid Chelate)</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สารสกัดเมล็ดข้างฟ่าง (Millet Extract)</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ผลิตภัณฑ์ผ่านมาตรฐาน GMP จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย หาซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาเรื่องเส้นผมหรือไม่ได้มีปัญหาแต่ต้องการบำรุงเส้นผมให้สลวยสวยเก๋แนะนำให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เลย</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-42667327302390793122021-07-21T21:51:00.008-07:002022-08-28T06:37:48.851-07:00ออฟฟิศซินโดรม อาการยอดนิยมของคนยุคไอที<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"ออฟฟิศซินโดรม" (Office Syndrome) กลุ่มอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด เรื่องนี้สำคัญมากถึงกับมีบรรจุอยู่ในแผนประกันออฟฟิศซินโดรม สาเหตุจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมๆเป็นเวลานานจนเกิดอาการอักเสบเรื้อรัง ไม่ใช่แค่เป็นๆหายๆ ถ้าไม่รีบแก้ไขอาการอาจจะแย่ลง</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjDve2XFwJc7fV3c1XnxFrfoy-4qCdojCCspUVbXa51WU0V8HMJ22GcQmds1XVHs0OagyU5HLT0JmSd_ax1qnEvQuccp22hL-7Wmi3qWfXAgo5yegtiP3c4cq4H8K7w03e8HPSYtUyw6l4D/s600/Office-Syndrome.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)" border="0" data-original-height="400" data-original-width="600" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjDve2XFwJc7fV3c1XnxFrfoy-4qCdojCCspUVbXa51WU0V8HMJ22GcQmds1XVHs0OagyU5HLT0JmSd_ax1qnEvQuccp22hL-7Wmi3qWfXAgo5yegtiP3c4cq4H8K7w03e8HPSYtUyw6l4D/s16000/Office-Syndrome.jpg" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ภาพ: <a href="https://www.wbur.org">WBUR</a></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ออฟฟิศซินโดรมไม่ใช่อาการของพนักงานออฟฟิศ แต่เป็นอาการที่จำลองภาพจากพฤติกรรมของพนักงานออฟฟิศในการนั่งทำงานอยู่กับที่ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานโดยแทบจะไม่ได้ขยับเขยื้อนหรือเคลื่อนไหวร่างกายให้มากพอจนทำให้เกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อ</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แม้แต่การนั่งๆนอนๆเล่นสมาร์ทโฟนก็เช่นกัน</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ลักษณะอาการออฟฟิศซินโดรมเบื้องต้น ได้แก่ มือชา แขนชา เอ็นอักเสบ ปวดศีรษะเรื้อรัง หลังยึด นิ้วล็อก หากเริ่มมีอาการเพียงเล็กน้อยสามารถรักษาให้หายเองได้ไม่ยาก แต่ถ้าอาการหนักมากจนรักษาให้หายเองไม่ได้จะต้องเข้ารับคำปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แนวทางการรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมทำได้หลายวิธี เช่น ฝังเข็ม นวดแผนไทย กายภาพบำบัดและกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็ก ร่วมด้วยการออกกำลังกายเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่ถึงจะรักษาให้หายแล้วก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นอีกหากยังคงใช้พฤติกรรมเดิมๆ</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">สำหรับการป้องกัน สิ่งสำคัญจะต้องปรับพฤติกรรมการใช้ร่างกายไม่ให้อยู่ในอิริยาบถเดิมนานๆ จัดสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม ลุกขึ้นยืดกล้ามเนื้อแขนขาเป็นระยะๆ ยืนแกว่งแขน พักสายตาด้วยการหลับและกระพริบตาบ่อยๆ นอนพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-27292439552840259552021-07-18T05:36:00.008-07:002022-08-30T04:56:17.501-07:00หญ้าหางม้า สมุนไพรธรรมชาติบำรุงเส้นผม<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"หญ้าหางม้า" (Horsetail) พืชตระกูลเฟิร์นที่มีรูปลักษณ์คล้ายหางม้า มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ เพิ่มอัตราการดูดซึมแร่ธาตุและวิตามิน ในทางการแพทย์แผนโบราณใช้เป็นสมุนไพรปรับสมดุลอวัยวะภายใน ขจัดสารพิษ รักษาอาการบวมน้ำ บำรุงไต ป้องกันการเกิดนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะ</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgJXbYYtIPqi7Q7QrMglcf1hrAGk20vuJHD9CqfnGWdP60hnX-dSUlaVY8Nozj8aalVTjwZBt6xb8AHZP8U8KFkDvRBjRL-vrvV5O8MNMfbeKJnioWa9gIKb8Xp3pN-ohyXoNTRnoR0-M6U/s800/Horsetail.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="หญ้าหางม้า (Horsetail)" border="0" data-original-height="800" data-original-width="600" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgJXbYYtIPqi7Q7QrMglcf1hrAGk20vuJHD9CqfnGWdP60hnX-dSUlaVY8Nozj8aalVTjwZBt6xb8AHZP8U8KFkDvRBjRL-vrvV5O8MNMfbeKJnioWa9gIKb8Xp3pN-ohyXoNTRnoR0-M6U/s16000/Horsetail.jpg" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">หญ้าหางม้ามีสารสำคัญเรียกว่า "ซิลิกา" ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในพืชผัก ผลไม้และน้ำสะอาด แต่จะพบมากเป็นพิเศษในหญ้าหางม้า โดยซิลิกาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในกระบวนการเสริมสร้างกระดูก (ข้อ) เล็บ ผิวและเส้นผม</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><b><u>หญ้าหางม้ากับเส้นผม</u></b></span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สารซิลิกาในหญ้าหางม้าช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นของเส้นผมจากภายในให้ดูดีมีชีวิตชีวา บำรุงรากผมให้แข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วงและกระตุ้นการเกิดเส้นผมใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หญ้าหางม้าจึงเป็นทางเลือกธรรมชาติสำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นผม ได้รับความนิยมในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "สารสกัดหญ้าหางม้า"</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-1882985584383759442021-06-23T06:10:00.005-07:002022-08-30T04:56:53.411-07:00น้ำตาลดอกมะพร้าว ทางเลือกความหวานเพื่อสุขภาพ<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"น้ำตาลดอกมะพร้าว" (น้ำช่อดอกมะพร้าว) ทางเลือกด้านสุขภาพสำหรับทดแทนความหวานจากน้ำตาลทั่วไป ด้วยวัตถุดิบจากมะพร้าวตามธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ความหวานที่ได้รับจากน้ำตาลดอกมะพร้าวจึงมีความเป็นมิตรต่อสุขภาพ (เช่นเดียวกับ<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2015/12/stevia.html">หญ้าหวาน</a>)</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhjmTdHCwi4ymkjcAJ97Oqve04N8cq7bYaOVVGY2xDt4d1EwBGbFGBm_hhQpfnxkXp0f9LT3r6oMmajzqu1OXwnbyJCQ9eom55VcJ22vk4AyGa3jAXY8J1EvPAtGnX2liGtsZMmboIxPiB3/s600/Coconut-Syrup.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="น้ำตาลดอกมะพร้าว (น้ำช่อดอกมะพร้าว)" border="0" data-original-height="400" data-original-width="600" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhjmTdHCwi4ymkjcAJ97Oqve04N8cq7bYaOVVGY2xDt4d1EwBGbFGBm_hhQpfnxkXp0f9LT3r6oMmajzqu1OXwnbyJCQ9eom55VcJ22vk4AyGa3jAXY8J1EvPAtGnX2liGtsZMmboIxPiB3/s16000/Coconut-Syrup.jpg" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">น้ำตาลดอกมะพร้าวให้รสชาติหวานไม่ต่างไปจาก "น้ำตาลทราย" หรือ "น้ำผึ้ง" แต่ดัชนีน้ำตาลของน้ำตาลดอกมะพร้าวมีน้อยกว่าหลายเท่าจึงไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำตาลทั่วไป ไม่สร้างภาระให้ตับอ่อนเร่งการหลั่ง "อินซูลิน" ออกมากำจัดปริมาณน้ำตาลส่วนเกินในกระแสเลือด</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">น้ำตาลดอกมะพร้าวเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการรสชาติหวานในเมนูอาหารโดยไม่ทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบมากเหมือนน้ำตาลทราย ผู้ป่วย<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/08/diabetes.html">โรคเบาหวาน</a>และผู้ที่ไม่อยากป่วย<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/08/diabetes.html">โรคเบาหวาน</a>สามารถทานได้ แต่ไม่ควรทานมากจนเกินไปเพราะอย่างไรเสียก็ยังถือว่าเป็นน้ำตาลที่มีดัชนีน้ำตาลอยู่ (มีน้อยแต่มีนะ)</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-75785183597398428572021-05-22T20:14:00.005-07:002022-08-30T04:59:27.428-07:00น้ำอุ่น VS น้ำเย็น ดื่มแบบไหนดีกว่ากัน<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">อุณหภูมิของน้ำที่แตกต่างกันย่อมส่งผลต่อคุณสมบัติของน้ำเมื่อดื่มเข้าสู่ร่างกาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะ "น้ำอุ่น" หรือ "น้ำเย็น" ต่างก็มีประโยชน์ แต่การจะเลือกว่าจะดื่มแบบไหนนั้นลงมาดูประโยชน์ของน้ำทั้งสองกันก่อน</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgvVoN0Jv3SohE9gU9Re6O4O2sU8AEj7qOMOLAI74xYvojn7CMb3c52R4OdagzRDOoWl40U9YDYC5xI8QEwLUGRlyKhpN2-1d6i-qOl1_fXtzCyLTPHjeWC5IFq2wpgI8dDenDVQORekCSo/s800/Warm-Water-and-Cold-Water.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="น้ำอุ่น VS น้ำเย็น ดื่มแบบไหนดีกว่ากัน" border="0" data-original-height="500" data-original-width="800" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgvVoN0Jv3SohE9gU9Re6O4O2sU8AEj7qOMOLAI74xYvojn7CMb3c52R4OdagzRDOoWl40U9YDYC5xI8QEwLUGRlyKhpN2-1d6i-qOl1_fXtzCyLTPHjeWC5IFq2wpgI8dDenDVQORekCSo/s16000/Warm-Water-and-Cold-Water.jpg" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><b><u>ประโยชน์ของน้ำอุ่นและน้ำเย็น</u></b></span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ประโยชน์ของน้ำอุ่น: น้ำอุ่นกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด บรรเทาอาการท้องผูก ลดอาการปวดประจำเดือน ขจัดสารพิษออกทางเหงื่อและระบบขับถ่าย เหมาะสำหรับดื่มตอนเช้าและหลังรับประทานอาหารเพื่อกระตุ้นระบบย่อย</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ประโยชน์ของน้ำเย็น: น้ำเย็นช่วยดับกระหายได้ดี เพิ่มความสดชื่น ลดอุณหภูมิในร่างกาย กระตุ้นระบบเผาผลาญ บรรเทาอาการทอนซิลอักเสบ ร่างกายดูดซึมได้เร็วกว่า ทั้งนี้ไม่ควรดื่มน้ำเย็นจัดๆ แค่ให้รู้สึกว่าน้ำมีความเย็นบ้างก็พอ</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">เบื้องต้นนี้แสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่าง "น้ำอุ่น" กับ "น้ำเย็น" ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะเลือกดื่มแบบไหน แต่มีอีกทางเลือกซึ่งน่าจะดีต่อร่างกายนั่นคือ "น้ำที่อุณหภูมิห้อง" ซึ่งสามารถดื่มเข้าไปโดยที่ร่างกายไม่ต้องปรับตัวเลย</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-37774358612062294502021-05-18T07:17:00.005-07:002022-08-30T05:01:02.406-07:00ผลไม้บำรุงเลือด บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">เลือดที่ไหลเวียนอยู่ทั่วร่างกายทำหน้าที่นำพาออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงอวัยวะ ไม่เพียงป้องกันความเจ็บป่วยที่เกิดจากความผิดปกติของเลือด แต่ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสวยงามเหมือนเครื่องสะท้อนคุณภาพของเลือดว่าดีหรือไม่</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhe4CdPmYe9L5MpmJ9RAT8mj-248_BtlR3doC6B3TGLVc9dxYLQXseILhMTXID1Ga3F2HOH0i5xDsPQyerQ-NhoipUxqvFnI742YknZOUjyEzHMhErl71r1eWs6Ss0AX6Cuu9bKrG8r7x3I/s639/Fruits-for-Blood.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ผลไม้บำรุงเลือด" border="0" data-original-height="355" data-original-width="639" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhe4CdPmYe9L5MpmJ9RAT8mj-248_BtlR3doC6B3TGLVc9dxYLQXseILhMTXID1Ga3F2HOH0i5xDsPQyerQ-NhoipUxqvFnI742YknZOUjyEzHMhErl71r1eWs6Ss0AX6Cuu9bKrG8r7x3I/s16000/Fruits-for-Blood.jpg" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"เลือดดี ผิวพรรณดี" แต่ถ้าเลือดไม่ดีผลลัพธ์ก็จะแสดงออกมาทางผิวพรรณจนสังเกตได้ ดังนั้นหากต้องการมีสุขภาพผิวดีควรเริ่มบำรุงกันที่เลือด ง่ายที่สุดคือ "อาหารเสริม" แต่ราคาสูง ทางเลือกที่น่าสนใจต่อมาคือ "ผลไม้" ซึ่งราคาถูกกว่าแถมยังช่วยให้อิ่มท้องได้ด้วย</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><b><u>ผลไม้บำรุงเลือด</u></b></span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• สตรอเบอร์รี่: สารอาหารในสตรอเบอร์รี่ช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง ลำเลียงออกซิเจนในกระบวนการขจัดเลือดเสีย เสริมสร้างคอลลาเจน ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ปรับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• แตงโม: สารอาหารในแตงโมช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ป้องกันการสะสมของไขมันในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงสภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายและหลอดเลือดแข็งตัว</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ทับทิม: สารอาหารในทับทิบช่วยเสริมการทำงานของหลอดเลือด ลดอาการมึนงง อ่อนเพลีย ป้องกันผมร่วง เพิ่มประสิทธิภาพอินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน ปรับฮอร์โมนสตรีวัยหมดประจำเดือน</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• แก้วมังกร: สารอาหารในแก้วมังกรกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือด บรรเทาอาการโลหิตจาง ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ลดภาวะไขมันในเลือดสูง เพิ่มปริมาณไขมันดีและกำจัดไขมันเลว <a href="http://bodycare108.blogspot.com/2015/12/dragon-fruit.html">แก้วมังกร</a></span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• กล้วย: สารอาหารในกล้วยในกล้วยช่วยบำรุงผิวที่ซีดขาวให้กลับมาเปล่งปลั่ง ดูมีเลือดฝาด เสริมสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงการทำงานของหัวใจ รักษาสภาวะโลหิตจาง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคลูคีเมีย</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">เหล่านี้เป็นตัวอย่างเบื้องต้นของผลไม้ในกลุ่ม "ผลไม้บำรุงเลือด" ซึ่งหาได้ไม่ยากและราคาก็ไม่สูงจนเกินไป แต่ต้องควบคุมปริมาณการทานไม่ให้มากจนเกินไปเพราะอาจเพิ่มพลังงานมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-50283561370082715822021-05-13T20:29:00.006-07:002022-08-30T05:03:00.123-07:00PUJINGTUN ปู่จิงตัน สมุนไพรจีนบำรุงฟื้นฟูการทำงานของไต<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"ไต" อวัยวะสำคัญที่มักจะเสื่อมสภาพรวดเร็วในอันดับต้นๆอันเป็นผลมาจากการใช้งานอย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะด้วยการทำหน้าที่กรองโซเดียม น้ำตาลและกรดยูริคส่วนเกินออกจากร่างกายในปริมาณที่สูงมากๆ จนสุดท้ายเมื่อไตรับสภาพการทำงานหนักไม่ไหวจนใกล้พังจึงนำมาด้วยโรคไตและโรคเก๊าต์</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg_WRJ4rPQpnX0RjqPfkuoKCVSLIZmAdRhQhPQfEbTSldreSe7EHfM6x1rrJzNoJ4-80xB8Rseb1EiqrVTisIjw67PAzfPd4QpUGyxouf9Mo9sc9Vdfu1c27WHfJOpxYDyEhCVePXpGLQBX/s500/PUJINGTUN.png" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="PUJINGTUN สมุนไพรจีนบำรุงฟื้นฟูการทำงานของไต" border="0" data-original-height="500" data-original-width="500" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg_WRJ4rPQpnX0RjqPfkuoKCVSLIZmAdRhQhPQfEbTSldreSe7EHfM6x1rrJzNoJ4-80xB8Rseb1EiqrVTisIjw67PAzfPd4QpUGyxouf9Mo9sc9Vdfu1c27WHfJOpxYDyEhCVePXpGLQBX/s16000/PUJINGTUN.png" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ดังนั้นได้เวลาหันมาใส่ใจสุขภาพไตก่อนจะสายจนต้องไปนอนฟอกไตสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง (อย่างน้อย) และรอผู้บริจาคไต ด้วยคุณค่าสมุนไพรตามตำรับยาจีน "ปู่จิงตัน" (PUJINGTUN) ซึ่งมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยปราศจากส่วนผสมของยาปฎิชีวนะและสารเคมีที่จะมีผลข้างเคียง</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><b><u>ส่วนประกอบสำคัญ</u></b></span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• เก๋ากี้ (โกจิเบอร์รี่): ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ช่วยปรับระดับความดันและน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ที่ถูกทำลาย ฟื้นฟูระบบสืบพันธุ์ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเป็นอันดับต้นๆ <a href="http://bodycare108.blogspot.com/2014/09/goji-berry.html">เก๋ากี้</a></span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ตั่วจ้อ (พุทราจีน): สมุนไพรรสหวาน เสริมสร้างกำลังวังชา อุดมด้วยวิตามินซี กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงโลหิต บำรุงระบบประสาทและสมอง ป้องกันหลอดเลือดหัวใจอุดตันและหลอดเลือดสมองตีบ</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• เส็กตี่ (โกฐขี้แมว): สมุนไพรเย็น (ส่วนราก) ที่ส่งผลกับต่อมหมวกไตและสภาวะไตเสื่อม บำรุงเลือด บำรุงเส้นผม เสริมสมรรถภาพทางเพศ บำบัดโรคในสตรีและป้องกันอาการหอบหืด</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">นอกจากจะช่วยในเรื่องการฟื้นฟูบำรุงไตและแก้ปัญหาเก๊าต์ สมุนไพรปู่จิงตันยังมีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับเบาหวาน ความดันและระบบสืบพันธุ์ แต่การจะใช้ให้เกิดประสิทธิภาพนั้นต้องร่วมด้วยการดูแลสุขภาพพื้นฐาน ได้แก่ กินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารขยะและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-58319772508839294622021-04-07T05:35:00.004-07:002022-08-30T21:49:34.707-07:00งาขี้ม้อน สมุนไพรโอเมก้าเทียบเท่าปลาทะเลน้ำลึก<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"งาขี้ม้อน" (งาม้อน) พืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินอี แคลเซียม ฟอสฟอรัส สารเซซามอลและโอเมก้า มีส่วนช่วยยืดอายุเซลล์ผิว ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็ง ลดการเกิดภูมิแพ้และหอบหืด งาม้อนจึงจัดเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ทั้งในด้านสุขภาพและความงาม</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh1u5rOkoqRp2Lxm51podEll3mvTq3BiO_rxm47pu9uBTkuF-RsNdTM0NpdHChbXsTfV89cuXVE4wsdbbK-FWCJCaKZcwdBFEBU6ZYf6RDRdHC4IeAZcM2mFMCLlPbTP_lNICfKvvMnvf4w/s698/Perilla.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="น้ำมันงาขี้ม้อนสกัด งาขี้ม้อนคั่วบด น้ำมันหอมระเหยงาขี้ม้อน" border="0" data-original-height="393" data-original-width="698" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh1u5rOkoqRp2Lxm51podEll3mvTq3BiO_rxm47pu9uBTkuF-RsNdTM0NpdHChbXsTfV89cuXVE4wsdbbK-FWCJCaKZcwdBFEBU6ZYf6RDRdHC4IeAZcM2mFMCLlPbTP_lNICfKvvMnvf4w/s16000/Perilla.jpg" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ภาพ: <a href="https://www.mashed.com">Mashed</a></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">งาขี้ม้อนมีคุณค่าทางโภชนาการสูง งานวิจัยพบว่างาขี้ม้อนมี<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2014/09/omega3.html">โอเมก้า 3</a> ในปริมาณเทียบเท่าหรือมากกว่าปริมาณที่พบในปลาทะเลน้ำลึกซึ่งช่วยในเรื่องระบบประสาทและความจำ ส่วนโอเมก้า 6 มีส่วนช่วยในเรื่องการบรรเทาอาการอักเสบและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดได้อย่างดีเยี่ยม</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">กรดไขมันอิ่มตัวในปริมาณมากช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดอาการเมื่อยล้าสายตา ผ่อนคลายความกังวล ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและใช้เป็นสมุนไพรบำรุงกำลังได้ สามารถใช้ได้ทั้งใบและเมล็ด รวมทั้งรูปแบบที่สกัดออกมาแล้ว เช่น น้ำมันงาขี้ม้อนสกัด งาขี้ม้อนคั่วบด น้ำมันหอมระเหยงาขี้ม้อน เป็นต้น</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-50050751260593913722020-12-17T07:55:00.007-08:002022-08-30T21:50:56.012-07:00กินผักตามฤดูกาล เสริมสุขภาพด้วยอาหารธรรมชาติ<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">การกินอาหารตามฤดูกาลโดยเฉพาะกลุ่มของพืชผักและผลไม้ จุดประสงค์ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนเมนูให้มีความหลากหลายเท่านั้น แต่ยังเป็นการกินเพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยใช้เมนูอาหารตามธรรมชาติในการเสริมความแข็งแรงให้ห่างไกลความเจ็บป่วย</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgN4o7q_HonnGJ00ha7ccZy2QmjNiHUg2GSvuTcviQClVVowJqepoDDAg_9JsTY6NudnB2kldw1n9zOflMhY8htWkwNWw_qNw94uAwNbnI-d_f3TzKtBEQK_iilFSD7p1USsPQH6BqwpWDb/s600/Seasonal-Vegetable.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="ผักตามฤดูกาล" border="0" data-original-height="400" data-original-width="600" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgN4o7q_HonnGJ00ha7ccZy2QmjNiHUg2GSvuTcviQClVVowJqepoDDAg_9JsTY6NudnB2kldw1n9zOflMhY8htWkwNWw_qNw94uAwNbnI-d_f3TzKtBEQK_iilFSD7p1USsPQH6BqwpWDb/s16000/Seasonal-Vegetable.jpg" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ภาพ: <a href="https://oloja.ng">Oloja</a></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<b><span lang="TH" style="color: #333333; font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><u>ผักตามฤดูกาล</u></span></b><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ฤดูหนาว: ควรกินผักที่ให้ความอบอุ่น เช่น กะเพรา ผักกาดหอม สลัด กวางตุ้ง คะน้า กระหล่ำปลี ผักกาดขาว ถั่วลันเตา บรอกโคลี มะรุม ผักชี ผักชีฝรั่ง (เน้นตระกูลพืชกินใบ)</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ฤดูร้อน: ควรกินผักที่มีรสเย็น เปรี้ยว ขมและจืด เช่น ตำลึง ดอกแค ย่านาง คะน้า แตงกวา ถั่วฝักยาว ถั่วพู ฟักทอง มะเขือเทศ มะเขือเปราะ มะเขือพวง มะนาว หอมหัวใหญ่ ข้าวโพด</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ฤดูฝน: ควรกินผักที่เน้นการระบาย เช่น พริก ขิง ข่า ตะไคร้ โหระพา หน่อไม้ เห็ด มะเขือ โสน ตำลึง ถั่วฝักยาว แมงลัก กระเฉด ผักบุ้ง กุยช่าย ชะอม ผักโขม ผักกูด</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">การกินผักตามฤดูกาลเบื้องต้นเน้นประโยชน์ไปที่การปรับสมดุล แต่ยังมีข้อดีที่บางคนอาจจะไม่ทันได้สังเกตนั่นคือ 1 ราคาถูก เนื่องจากเป็นช่วงที่ผักจะให้ผลผลิตออกมามาก และ 2 ลดความเสี่ยงจากสิ่งปนเปื้อนเนื่องจากผักเจริญเติบโตได้ง่ายจึงไม่ต้องใช้สารเคมีในการเร่งผลผลิต</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-68431735623592597732020-12-03T19:55:00.005-08:002022-08-30T21:52:35.781-07:00ผักสด VS ผักสุก กินแบบไหนได้ประโยชน์กว่ากัน<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ขึ้นชื่อว่า "ผัก" อันเป็นผลผลิตจากธรรมชาติย่อมทำให้รับรู้ได้ถึงคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์ วิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด เชื่อกันว่าการกินผักสดๆที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งด้วยความร้อนจะทำให้ได้รับคุณค่าสารอาหารอย่างเต็มที่ แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่แน่เสมอไป</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjIzYd0CJr1JPkubXMD00JpsSEtmaTO8sSwgEItrDuvghWdyTQaQ9sBtQsXPZAsIHGC__42WAZ5vAT8OS1T1Noqa6Ok9IRTkhkDeA8sV_KgUToLiF9FdMUzNRlDkvyglJqBRPlQIbe0ur2b/s900/Tomato.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="ผักสด VS ผักสุก กินแบบไหนได้ประโยชน์กว่ากัน" border="0" data-original-height="900" data-original-width="600" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjIzYd0CJr1JPkubXMD00JpsSEtmaTO8sSwgEItrDuvghWdyTQaQ9sBtQsXPZAsIHGC__42WAZ5vAT8OS1T1Noqa6Ok9IRTkhkDeA8sV_KgUToLiF9FdMUzNRlDkvyglJqBRPlQIbe0ur2b/s16000/Tomato.jpg" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ภาพ: <a href="https://thesaltypot.com">The Salty Pot</a></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">พืชผักส่วนใหญ่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเมื่อกินสดๆซึ่งต้องทำความสะอาดไม่ให้มีสารเคมีและสิ่งเจือปนตกค้าง แต่อาจมีกลิ่นเหม็นเขียวทำให้กินยาก การปรุงให้สุกด้วยความร้อนแม้จะทำให้สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการไปแต่ก็ช่วยให้กินได้ง่ายและมีรสชาติอร่อยกว่า</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">กระบวนการ "ความร้อน" ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผักสูญเสียสารอาหารไปโดยเฉพาะโปรตีนที่เรียกว่า "เอนไซม์" ซึ่งมีอยู่ในผักและผลไม้สด ไม่ว่าจะเป็นความร้อนที่เกิดจากการต้ม ผัด แกง ทอด (หอมอร่อยในพริบตา) แต่มีผักบางชนิดจะยิ่งให้สารอาหารที่สูงขึ้นเมื่อนำมาผ่านความร้อน</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ผักบางชนิดต้องผ่านความร้อนเพื่อเพิ่มคุณค่า เช่น "มะเขือเทศ" ที่ได้ชื่อว่าเป็นพืชที่มี "สารไลโคปีน" (Lycopene) มากอันดับต้นๆซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ลดคลอเลสเตอรอลและเติมคอลลาเจนให้ร่างกาย ผลการทดลองพบว่ามะเขือเทศที่ผ่านกระบวนการปรุงด้วยความร้อนจะทำให้ปริมาณสารไลโคปีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ผักบางชนิดต้องผ่านความร้อนเพื่อทำให้สารบางอย่างหายไป เช่น "ผักโขม" ที่มี "กรดออกซาลิก" (Oxalic Acid) ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย การปรุงผักโขมด้วยความร้อนจนสุกจะทำให้กรดออกซาลิกหายไปและยังเพิ่มปริมาณแคลเซียมให้สูงขึ้นด้วย</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ดังนั้นระหว่าง "ผักสด" หรือ "ผักสุก" จึงต้องพิจารณาจากชนิดของผักเป็นหลัก...</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-48751706046060398272020-10-10T03:31:00.005-07:002022-08-30T21:53:14.127-07:00Melatonin เมลาโทนิน ฮอร์โมนกระตุ้นการนอนหลับ<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"เมลาโทนิน" (Melatonin) คือ ฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อกระตุ้นวงจรการนอนในระบบ<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/02/biological-clock.html">นาฬิกาชีวิต</a>โดยมีความมืดเป็นตัวกระตุ้นการหลั่งและแสงสว่างจะเป็นตัวยับยั้งให้หยุดการหลั่ง เมื่อสารเมลาโทนินเข้าสู่กระแสเลือดจะทำให้เกิดความเฉื่อยชา การตื่นตัวน้อยและอุณหภูมิร่างกายจะลดลงซึ่งเป็นสภาวะที่นำไปสู่การนอนหลับ ดังนั้นหลังจากสิ้นแสงอาทิตย์ร่างกายมนุษย์จึงเข้าโหมดจำศีล</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjVy8RYgli1VvnnTZ7X4TGTaBY7SonmgattVgdeqvIfSY6TvUF_Jv2HZG85o91bakMJ5U-A790rDUESPPhaU27DBsGjApOm1xSwf21vpIkf_GRhPfsU3zAAy8SU-YcUda8gSUatHAyRf45Q/s600/Melatonin.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="เมลาโทนิน (Melatonin)" border="0" data-original-height="600" data-original-width="600" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjVy8RYgli1VvnnTZ7X4TGTaBY7SonmgattVgdeqvIfSY6TvUF_Jv2HZG85o91bakMJ5U-A790rDUESPPhaU27DBsGjApOm1xSwf21vpIkf_GRhPfsU3zAAy8SU-YcUda8gSUatHAyRf45Q/s600/Melatonin.jpg" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><span style="font-family: arial;">ภาพ: <a href="http://www.evitamins.com">EVitamins</a></span></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ปริมาณเมลาโทนินที่เพียงพอทำให้การนอนมีประสิทธิภาพ ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาเสริมสร้างการเจริญเติบโต กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบ ยืดอายุสมองป้องกันอัลไซเมอร์ แต่อายุที่เพิ่มมากขึ้นและวิถีชีวิตที่สวนธรรมชาติเป็นปัจจัยที่ทำให้หลั่งเมลาโทนินได้น้อยลง ส่งผลต่อการนอน เมื่อการนอนไม่มีประสิทธิภาพร่างกายจึงไม่ได้รับการฟื้นฟูซ่อมแซมอย่างเหมาะสมและอาจส่งผลให้หยุดการเจริญเติบโตก่อนวัยอันควร</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แม้ปัจจุบันจะมีการสกัดเมลาโทนินออกมาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยาเพื่อใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาการนอน แต่มีข้อจำกัดในการใช้ เช่น ผู้ที่มีปัญหาการทำงานของตับและไตบกพร่องไม่ควรใช้เนื่องจากเมลาโทนินจะถูกทำลายที่ตับและขับออกทางไต หากตับและไตทำงานบกพร่องจะทำให้เมลาโทนินอยู่ในร่างกายนานขึ้นจนอยู่ในโหมดจำศีล ปวดศีรษะ ฝันร้ายและมึนงง</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">เมลาโทนินช่วยให้หลับง่ายแต่ไม่ใช่ยานอนหลับและไม่ใช่ยารักษาอาการนอนไม่หลับ ช่วยให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้านอนหลับง่ายแต่ไม่ใช่ยารักษาโรคซึมเศร้า ดังนั้นควรใช้เมื่อจำเป็นโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่นอนผิดเวลา (ทำงานกลางคืนแล้วนอนกลางวัน) เหนื่อยล้าจากการเดินทางโดยเครื่องบิน (Get Lag) ผู้ป่วยที่ต้องพักผ่อนหลังผ่าตัด ก่อนใช้แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้ใช้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-14378434196544189062020-09-29T17:55:00.006-07:002022-08-30T21:54:27.529-07:00มะขามป้อม สมุนไพรบ้านๆที่ไม่บ้านอย่างที่คิด<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"มะขามป้อม" (Emblica) ชื่อนี้อาจฟังดูบ้านๆไม่ไกลตัวเท่าไหร่ แต่บอกเลยว่าสรรพคุณของมะขามป้อมไม่บ้านๆอย่างที่คิดแน่นอน มะขามป้อมเป็นสมุนไพรที่จัดอยู่ในตำรับยาโบราณหลายขนาน เช่น <a href="http://bodycare108.blogspot.com/2015/12/triphala.html">มหาพิกัดตรีผลา</a> ยาต้านหวัด ตำรับยารักษาริดสีดวงทวาร ฯลฯ เข้าขั้นเรียกว่า "ยาอายุวัฒนะ" ได้เลยทีเดียว</span><br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg1UskhVJCDPYV1pcen0jMbbe9lvBH19M2bDOdxSJaIwP7VtErfLhPdebmP4uAn6oSEfgIyLyPz-yFuPGoRiEbU-Z3wr6myl_QTRxCH11whfkAHo2bstej7YpZ3an1bCVXApeWHa2v47slv/s500/Emblica.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="มะขามป้อม - สารสกัดมะขามป้อม" border="0" data-original-height="500" data-original-width="500" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg1UskhVJCDPYV1pcen0jMbbe9lvBH19M2bDOdxSJaIwP7VtErfLhPdebmP4uAn6oSEfgIyLyPz-yFuPGoRiEbU-Z3wr6myl_QTRxCH11whfkAHo2bstej7YpZ3an1bCVXApeWHa2v47slv/s500/Emblica.jpg" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><span style="color: #444444; font-family: arial;">ภาพ: <a href="https://www.indiamart.com">IndiaMart</a></span></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">มะขามป้อมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินในปริมาณที่สูงมากเมื่อเทียบกับพืชผักหรือผลไม้ทั่วไปในอัตราส่วนที่เท่ากัน แต่ก็ยังไม่มากพอจนถึงขั้นกล่าวได้ว่า "กินมะขามป้อมเพียง 1 ผล จะได้รับวิตามินซีเพียงพอสำหรับร่างกายใน 1 วัน" ดังนั้นประโยคนี้จึงเกินความเป็นจริงไป</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">สรรพคุณที่ได้รับจากมะขามป้อม คือ การบำรุงอวัยวะภายในแทบจะทุกส่วน (ในระดับหนึ่ง) กระตุ้นการทำงานของเซลล์ บำรุงระบบสายตา (การมองเห็น) บำรุงเลือด ลดความดันโลหิต ขับถ่ายสะดวก บำรุงประสาทและสมอง เส้นผมดกดำเงางาม ผิวพรรณให้กระจ่างใส ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">วิธีการรับประทานมะขามป้อมให้ได้ประโยชน์มากที่สุดคือ "กินสดๆทั้งผล" แต่รสชาติที่ฝาดและไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่จึงทำให้ทานได้ไม่มาก ดังนั้นจึงมีตัวช่วยคือ "สารสกัดมะขามป้อม" (กรรมวิธีการสกัด ไม่ใช่นำมาบดเป็นผง) ในรูปแบบต่างๆที่จะทำให้ได้รับวิตามินซีและสารอื่นๆในปริมาณมาก แต่จะไม่ได้รับใยอาหารและราคาสูง (นิดนึง)</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-28844892031093941962020-09-11T03:00:00.006-07:002022-08-30T21:56:00.415-07:00เกลือดำ มหัศจรรย์เกลือเพื่อสุขภาพ<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"เกลือดำ" (Black Salt) หรือ "เกลือดำหิมาลายัน" (Himalayan Black Salt) ลักษณะหินเกลือสีม่วงเข้มพบมากในแถมเอเชียใต้บริเวณที่เคยเป็นภูเขาไฟ เกลือดำมีโซเดียมซัลเฟตเป็นองค์ประกอบหลักผสมแร่ธาตุหลายชนิด รสเค็มและกลิ่นฉุนกำมะถัน แต่ปริมาณโซเดียมน้อยกว่าเกลือแกงจึงเป็นมิตรกับสุขภาพกว่ากัน</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWqMFahlGTWow86WYwIEmFQKld_yV0ry71xdYjSWH91xa6wnbFttVnj2baij_A1JZNReSZwcbqoofsBCbZPz0oaImpgVowf5XCWIsOr4r5YZfQR6U4VRcfc0GLkHKwMUxmOf0m4xHsrEuw/s1600/Black-Salt.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="เกลือดำ (Black Salt) หรือ เกลือดำหิมาลายัน (Himalayan Black Salt)" border="0" data-original-height="600" data-original-width="600" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWqMFahlGTWow86WYwIEmFQKld_yV0ry71xdYjSWH91xa6wnbFttVnj2baij_A1JZNReSZwcbqoofsBCbZPz0oaImpgVowf5XCWIsOr4r5YZfQR6U4VRcfc0GLkHKwMUxmOf0m4xHsrEuw/s400/Black-Salt.jpg" width="400" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><span style="font-family: arial;">ภาพ: <a href="https://www.gourmetfoodstore.com">Gourmet Food Store</a></span></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">เกลือดำมีความบริสุทธิ์กว่าเกลือที่มาจากทะเล ขนาดโมเลกุลเล็กเท่าประจุไฟฟ้าจึงถูกดูดซึมได้ดีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย ปริมาณโซเดียมที่น้อยจึงลดภาระการทำงานของไต ลดโอกาสในการเกิดโรคไต เบาหวาน ความดัน หัวใจ บรรเทาอาการผิดปกติในระบบย่อยอาหาร</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ในด้านความสวยความงามเกลือดำยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว คุมความมันส่วนเกิน ลดการเกิดสิว ลดการอักเสบ บำรุงเส้นผมให้แข็งแรงเงางาม ลดความมันบนหนังศีรษะ ยืดอายุเส้นผมไม่ให้ขาดหลุดร่วงก่อนวัย ส่วนความเชื่อที่ว่ากิน "เกลือดำ" ผสม "น้ำมะนาว" แล้วจะช่วยรักษามะเร็งได้นั้นไม่เป็นความจริง...</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-34243043794717305192020-08-23T18:32:00.005-07:002022-08-30T21:56:52.380-07:00แปะก๊วย สมุนไพรใบสวยบำรุงสมอง<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"แปะก๊วย" (Ginkgo Biloba) สมุนไพรบำรุงสมองจากดินแดนทางตะวันออกของประเทศจีน สรรพคุณทางยาที่ได้จากแปะก๊วยหรือ "กิงโกะ" อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็งเกือบทุกชนิดและชะลอความเสื่อมของเซลล์จึงช่วยป้องกันสภาวะแก่ก่อนวัย (คงความหนุ่มสาวให้นานขึ้น) โดยได้รับความนิยมในการใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiHgvw6Gtcvy_jwOEsKsUnnQNXvBFTg4BcI6TsWwFXssDLJkdZ70QZibDPG1C5YpISuo_i7-nuZyUqGS1OORFtKZEY1jrhIQgvAyTBM_5Z-ChrvcL4Br6O9Y4Jsl2jHg2TLJ5-ZNHOvKTAJ/s1600/Ginkgo-Biloba.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="แปะก๊วย (Ginkgo Biloba)" border="0" data-original-height="515" data-original-width="515" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiHgvw6Gtcvy_jwOEsKsUnnQNXvBFTg4BcI6TsWwFXssDLJkdZ70QZibDPG1C5YpISuo_i7-nuZyUqGS1OORFtKZEY1jrhIQgvAyTBM_5Z-ChrvcL4Br6O9Y4Jsl2jHg2TLJ5-ZNHOvKTAJ/s16000/Ginkgo-Biloba.jpg" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ภาพ: <a href="https://www.nccih.nih.gov">National Center for Complementary</a></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">สารสกัดจากแปะก๊วยมีฤทธิ์ต้านการจับตัวของเกร็ดเลือดทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีและพาออกซิเจนไปเลี้ยงสมองอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการจดจำดีและมีสมาธิมากขึ้น ลดอาการเครียดและคลายความวิตกกังวลในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ใช้ควบคู่กับการรักษาโรคจิตเภท รวมทั้งป้องกันอาการหลงลืมและใช้รักษาผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ (ในบางประเทศ)</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">เลือดที่ไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะเพศอย่างเพียงพอช่วยป้องกันและรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (เบื้องต้น) ในเพศชายได้ ส่วนในเพศหญิงสารสกัดจากแปะก๊วยจะช่วยลดอาการปวดท้องและเจ็บหน้าอก รวมทั้งทำให้สมองผ่อนคลายในช่วงที่มีประจำเดือน</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีอาการชาบริเวณปลายมือปลายเท้าอันเนื่องมาจากการที่เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงได้ตามปกติ สารสกัดจากแปะก๊วยจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนให้เลือดไปหล่อเลี้ยงเพื่อฟื้นฟูและบรรเทาอาการชา ชะลอความเสื่อมของจอประสาทตาจากสภาวะเบาหวานขึ้นตาและช่วยทำให้การมองเห็นกลับมาดีขึ้น</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แม้จะเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์สูงมากแต่ก็ต้องพิจารณาปริมาณในการใช้อย่างเหมาะสม ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยบางชนิดจะต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ว่าสามารถบริโภคได้หรือไม่ สตรีมีครรภ์ไม่ควรบริโภค</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ส่วนการบริโภคแปะก๊วยจากเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสารสกัดแปะก๊วย เช่น "นมพร้อมดื่ม" ก็ต้องดูส่วนผสมอื่นๆร่วมด้วยเพราะอาจมีน้ำตาลผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก กลายเป็นการได้ประโยชน์จากแปะก๊วย แต่เสียสุขภาพเพราะน้ำตาล!!!</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-24583221869379544602020-08-18T19:30:00.002-07:002022-08-30T21:58:38.041-07:00นอนวันละกี่ชั่วโมงถึงจะเพียงพอ<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">การนอนหลับ (ย้ำว่านอนหลับสนิท) คือ การพักผ่อนที่ดีที่สุดเพื่อให้ร่างกายได้ทำหน้าที่สร้างเสริมความเจริญเติบโตและฟื้นฟูสภาพจากความเสื่อมถอย มูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา (จริงจังมาก) ได้ระบุจำนวนชั่วโมงการนอนที่เหมาะสมสำหรับคนแต่ละช่วงอายุเอาไว้เบื้องต้น ดังนี้</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh7kCGYoMEqN5V8XPN_aoYkIJFzFU7rSW1U5c0E-tpg_bovDoWve1FLD9QCxT188umYTy2S_-4lhHrHj8AOC-OXJ4JIgG9aa8Et3fiRKlAhW0bANcOY4KPhLWJ8MQf9pk1kyqiLepiZZ_FQ/s1600/Sleeping.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="นอนวันละกี่ชั่วโมงถึงจะเพียงพอ" border="0" data-original-height="356" data-original-width="564" height="252" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh7kCGYoMEqN5V8XPN_aoYkIJFzFU7rSW1U5c0E-tpg_bovDoWve1FLD9QCxT188umYTy2S_-4lhHrHj8AOC-OXJ4JIgG9aa8Et3fiRKlAhW0bANcOY4KPhLWJ8MQf9pk1kyqiLepiZZ_FQ/s400/Sleeping.jpg" width="400" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><b><u>ช่วงอายุและจำนวนชั่วโมงการนอน</u></b></span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• อายุ 0-3 เดือน ควรนอน 14-17 ชั่วโมง/วัน</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• อายุ 4-11 เดือน ควรนอน 12-15 ชั่วโมง/วัน</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• อายุ 1-2 ปี ควรนอน 11-14 ชั่วโมง/วัน</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• อายุ 3-5 ปี ควรนอน 10-13 ชั่วโมง/วัน</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• อายุ 6-13 ปี ควรนอน 9-11 ชั่วโมง/วัน</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• อายุ 14-17 ปี ควรนอน 8-10 ชั่วโมง/วัน</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• อายุ 18-64 ปี ควรนอน 7-9 ชั่วโมง/วัน</span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• อายุ 65 ปีขึ้นไป ควรนอน 7-8 ชั่วโมง/วัน</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ทั้งนี้การนอนให้ครบจำนวนชั่วโมงตามข้อมูลเบื้องต้นเพียงอย่างเดียวไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่การนอนที่ถูกต้องจะต้องนอนให้ถูกช่วงเวลาด้วย นอนในช่วงเวลากลางคืนเพียง 4-6 ชั่วโมง มีค่ามากกว่าการนอนกลางวัน 8-10 ชั่วโมง เพราะธรรมชาติสร้างให้มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่หากินในเวลากลางวันและพักผ่อนในเวลากลางคืน</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">การนอนกลางวันอาจจะช่วยให้ร่างกายได้พักทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า แต่สิ่งที่ร่างกายจะไม่ได้รับจากการนอนกลางวันคือ "การฟื้นฟู" เนื่องจากเซลล์ในร่างกายมีการเสื่อมสภาพและสร้างใหม่ขึ้นมาทดแทนทุกวัน โดยกระบวนการฟื้นฟูดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนอนหลับในช่วงเวลากลางคืน</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">สำหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการนอนหลับ คือ "สี่ทุ่มถึงตีสอง" นับเป็นช่วงเวลาทองที่ต่อมใต้สมองจะหลั่งสารที่ชื่อว่า "โกรทฮอร์โมน" (Growth Hormone) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพ การอดนอนในช่วงเวลานี้ร่างกายจึงไม่สามารถสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาฟื้นฟูได้ ผลที่ตามมาคือ ความเสื่อมถอยก่อนวัยอันควร</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">สังเกตง่ายๆว่าคนที่ทำงานกลางคืนจะมีสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยเร็วมาก แม้จะมีเวลานอนกลางวันมากเป็นสิบชั่วโมง ต่างกับคนที่ทำงานกลางวันแต่ได้นอนหลับในช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพียง 4-6 ชั่วโมง ดังนั้นจำนวนชั่วโมงการนอนที่มากจึงไม่ใช่สิ่งที่บ่งชี้ว่าเพียงพอ แต่การนอนที่เพียงพอคือการนอนในช่วงเวลาที่เหมาะสม</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-1291192975130957972020-05-25T07:50:00.002-07:002022-08-30T21:44:43.776-07:003 สิ่งที่ไม่ควรทำหลังทานอาหาร<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">รู้หรือไม่ว่ากิจกรรมบางอย่างที่นิยมทำทันทีหลังทานอาหารและคิดว่าดีมีประโยชน์อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะกิจกรรมที่คนจำนวนไม่น้อยนิยมทำกันเป็นปกติวิสัยจนเรียกได้ว่า "พฤติกรรมธรรมชาติ" ซึ่งจะขอยกตัวอย่าง 3 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำทันทีหลังทานอาหารดังนี้</span><br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi7ImMRQs9VKAl9JwSYfb6Iv49Rz-4BMkb0rlvHY3a-LxczrxwCMoE05TiXzWmMfooKLH-U9fLHgQaLCUNAu1X85dH0z6brMJvDvSIbhfhorZlvoJyalqz8sZ09NSxIeRw56xic7ov3FA8R/s1600/Bad-After-Meal.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="3 สิ่งที่ไม่ควรทำหลังทานอาหาร" border="0" data-original-height="316" data-original-width="640" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi7ImMRQs9VKAl9JwSYfb6Iv49Rz-4BMkb0rlvHY3a-LxczrxwCMoE05TiXzWmMfooKLH-U9fLHgQaLCUNAu1X85dH0z6brMJvDvSIbhfhorZlvoJyalqz8sZ09NSxIeRw56xic7ov3FA8R/s16000/Bad-After-Meal.jpg" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ภาพ: <a href="http://www.yogurtinnutrition.com">Yogurt in Nutrition</a></td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><b><u>สิ่งที่ไม่ควรทำหลังทานอาหาร</u></b></span><br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ทานผลไม้: ผลไม้หลังอาหารกลายเป็นเรื่องปกติทำนองว่า "กินล้างปาก" แต่ในผลไม้จะมีกรดชนิดหนึ่งที่สามารถย่อยตัวเองได้ซึ่งการทานผลไม้ทันทีหลังอาหารจะทำให้กรดตัวนี้ถูกดึงไปช่วยย่อยอาหารแทน ผลไม้ที่ทานเข้าไปจึงไม่มีกรดที่ใช้ย่อย ทำให้ย่อยได้ช้าจนบางครั้งเกิดอาการ "ผลไม้บูด" นำมาซึ่งความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ดื่มชา: เคยคิดว่าการดื่มชาหลังอาหารเป็นเรื่องดีที่จะช่วยกระตุ้นให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินออกมาจัดการกับน้ำตาล แต่การดื่มชาหลังทานอาหารจะทำให้ลำไส้เล็กไม่สามารถดูดซึม "ธาตุเหล็ก" ส่งผลให้กระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดงผิดปกติจนเกิดอาการอ่อนเพลีย สับสนมึนงง ผมร่วงและเสี่ยงต่อการเกิดโรคโลหิตจาง</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">• ออกกำลังกาย: ไม่ใช่แค่เรื่องของการจุกเสียด แต่ร่างกายต้องใช้เวลาในการดูดซึมและทำการย่อย เมื่อทานอาหารเข้าไปเลือดจะถูกส่งไปเป็นพลังงานในระบบย่อยมากกว่าปกติ การออกกำลังกายหลังทานอาหารทันทีจะทำให้เลือดถูกดึงออกมาจากระบบย่อยเพื่อเป็นพลังงานแก่ส่วนอื่น กระบวนการย่อยอาหารจึงถูกรบกวนจนทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-62770751327865160742020-01-13T01:45:00.004-08:002022-08-30T21:59:20.507-07:00หนานเฉาเหว่ย สมุนไพรที่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"หนานเฉาเหว่ย" (Gymnanthemum Extensum) สมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน สรรพคุณในด้านตำรับยาจีน ช่วยลดระดับน้ำตาล ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันการเกิดเก๊าต์ ลดอาการปวดข้อ บรรเทาริดสีดวงทวาร ชำระล้างสารพิษ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน แก้พิษและโรคเรื้อรัง</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrhXEBaRW6kBCPWILbyMy2TdV_5-ChD9Rpj09D3fbbqYlWN1SJ70rD6AYAis-zBpke0Lvr_jNwRAiJVKOuE21J1I2XJvXeEreOuXozBCRtoAf_6kLUQ2mLQXPEVqJR4zD6XT3x4eWvlQUi/s1600/Gymnanthemum-Extensum.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="หนานเฉาเหว่ย (Gymnanthemum Extensum)" border="0" data-original-height="450" data-original-width="600" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrhXEBaRW6kBCPWILbyMy2TdV_5-ChD9Rpj09D3fbbqYlWN1SJ70rD6AYAis-zBpke0Lvr_jNwRAiJVKOuE21J1I2XJvXeEreOuXozBCRtoAf_6kLUQ2mLQXPEVqJR4zD6XT3x4eWvlQUi/s1600/Gymnanthemum-Extensum.jpg" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">สรรพคุณทางยาที่ยอดเยี่ยมทำให้หนานเฉาเหว่ยมีชื่อเรียกอย่างอื่นเช่น ‘ป่าช้าเหงา’ หรือ ‘ป่าช้าหมอง’ สะท้อนถึงการป้องกันและรักษาโรคทำให้อาการเจ็บป่วยทุเลาเบาบางลง</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แต่การบริโภคหนานเฉาเหว่ยติดต่อกันเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างคาดไม่ถึงโดยเฉพาะตับและไตที่ต้องทำงานหนักจนอาจถึงขั้นเสื่อมได้</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ผู้ป่วยโรคตับและไตไม่แนะนำให้บริโภคหนานเฉาเหว่ยอย่างต่อเนื่องเพราะค่าการทำงานจะสูงขึ้นจนถึงระดับที่เป็นอันตราย</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ส่วนผู้ที่มีอาการป่วยด้วยโรคเบาหวานที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดก็ต้องบริโภคอย่างระมัดระวังเพราะฤทธิ์ที่แรงอาจเกิดผลข้างเคียงจากภาวะระดับน้ำตาลตกอย่างฉับพลัน สตรีมีครรภ์และสตรีที่เตรียมร่างกายในการตั้งครรภ์ไม่ควรบริโภค</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">การบริโภคหนานเฉาเหว่ยไม่แนะนำให้บริโภคเป็นยา เว้นแต่การบริโภคเพื่อบำรุงร่างกายเป็นครั้งคราวแล้วเว้นระยะห่างเพื่อให้ค่าตับและไตลดลงสู่ระดับปกติ หากมีอาการผิดปกติจากการบริโภคหนานเฉาเหว่ย เช่น หน้ามืด ใจสั่น เหงื่อออกมาก ควรหยุดทันทีและหากมีอาการรุนแรงควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-41197047934794336302019-10-11T06:06:00.006-07:002022-08-30T22:00:29.838-07:00Pinnara พิณนารา เซรั่มน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;"><a href="http://bodycare108.blogspot.com/2014/09/coconut-oil.html">น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น</a>มีสรรพคุณในการดูแลสุขภาพและความงามเรียกได้ว่าเป็นของขวัญจากธรรมชาติอย่างแท้จริง แต่จะดีแค่ไหนถ้ามีการคัดเฉพาะส่วนที่ดีที่สุดของน้ำมันมะพร้าวมาใช้เน้นๆในรูปแบบของ ‘เซรั่มน้ำมันมะพร้าว’ ที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายและยังได้รับประสิทธิภาพอย่างสูงสุด</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjnyKS3yjibTuTorNCaUp55FU_bT_Zss7QqpYQ5U_i9tQo_WWdM4xlFoVUnCNZQekWcKjW6bL51eikxx9JY_oGAM2k-tZVn1pt6wsR9xVY-d9dO39J91HO4wQrmNxk2FBJGL-L2NVPwCeIR/s1600/Coconut-Oil-Serum.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="พิณนารา เซรั่มน้ำมันมะพร้าว" border="0" data-original-height="963" data-original-width="1280" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjnyKS3yjibTuTorNCaUp55FU_bT_Zss7QqpYQ5U_i9tQo_WWdM4xlFoVUnCNZQekWcKjW6bL51eikxx9JY_oGAM2k-tZVn1pt6wsR9xVY-d9dO39J91HO4wQrmNxk2FBJGL-L2NVPwCeIR/s1600/Coconut-Oil-Serum.jpg" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">อันนี้ไม่ได้อวยกันเกินจริง แต่อยากจะแนะนำให้ลองได้ใช้กัน สำหรับเซรั่มน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นภายใต้แบรนด์ ‘พิณนารา’ (Pinnara Coconut Oil Serum) ด้วยคุณสมบัติในการซึมซับที่รวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นหอมอ่อนๆอย่างเป็นธรรมชาติและที่สำคัญคือ ราคาไม่แพง!!!</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">เซรั่มน้ำมันมะพร้าวมีสรรพคุณในการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย แก้ไขปัญหาผิวหยาบกร้านโดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แม้ผิวบอบบาง คุณสมบัติในการซึมซับลงสู่ชั้นผิวอย่างรวดเร็วจึงทำให้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่คนผิวมันก็ใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">การใช้น้ำมันมะพร้าวดูแลสุขภาพเส้นผมโดยทั่วไปนั้นจะใช้การหมักทิ้งไว้แล้วจึงสระออกด้วยแชมพู ข้อเสียของวิธีการนี้คือ ใช้เวลานาน หลายขั้นตอน (ทั้งหมักทั้งสระ) รู้สึกเหนียวเหนอะหนะและอาจจะทำให้บริเวณโดยรอบเลอะเทอะไปด้วยหากมีน้ำมันมะพร้าวหยดลงบนพื้น</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แต่การใช้เซรั่มน้ำมันมะพร้าวสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ในขั้นตอนเดียวโดยการชโลมเซรั่มน้ำมันมะพร้าวลงบนเส้นผมหรือหนังศีรษะบริเวณที่ต้องการก็เป็นอันเสร็จสิ้น เซรั่มจะซึมลงสู่เส้นผมและหนังศีรษะอย่างรวดเร็ว เหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมเบาๆที่ได้กลิ่นแล้วรู้สึกผ่อนคลาย</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-91267926836997965702019-07-16T03:07:00.002-07:002022-08-30T22:01:27.542-07:00ชานมไข่มุก เครื่องดื่มหวานๆน้ำตาลสูงๆ<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">"ชานมไข่มุก" เครื่องดื่มรสชาติหวานอร่อยที่นำมาเสิร์ฟพร้อมความเย็นสดชื่นเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนระอุ ชานมไข่มุกมีต้นกำเนิดมาจาก ‘ร้านชาชุนฉุ่ยถัง’ ในเมืองไถจง ประเทศไต้หวัน ก่อนที่ในเวลาต่อมาชานมไข่มุกจะกลายเป็นเครื่องดื่มที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi-ts-XMOypxkHa1DVM8OfOBwKiYaywTZbDSv-ChhBufnABbiL-j4ET9KLdzAwryOM0NuAIQb8GqFywF3_UhfDix1UMID-w1QP9N9UHlm9ASHmk8H7RjTKY2PQLCooU7nLwIS5IHmUUJfXc/s1600/Bubble-Tea.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="ชานมไข่มุก (Bubble Tea)" border="0" data-original-height="800" data-original-width="450" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi-ts-XMOypxkHa1DVM8OfOBwKiYaywTZbDSv-ChhBufnABbiL-j4ET9KLdzAwryOM0NuAIQb8GqFywF3_UhfDix1UMID-w1QP9N9UHlm9ASHmk8H7RjTKY2PQLCooU7nLwIS5IHmUUJfXc/s16000/Bubble-Tea.jpg" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">สำหรับชานมไข่มุกในไทยนั้นเคยได้รับความนิยมอย่างมากก่อนที่กระแสจะหายไปนานหลายปี และตอนนี้มันก็กลับมาเป็นเครื่องดื่มที่ครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นจนผู้บริโภคบางรายรู้สึกว่าจะขาดเสียไม่ได้</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แต่ชานมไข่มุกที่สุดแสนจะอร่อยนี้แฝงมาด้วยภัยร้ายทำลายสุขภาพโดยเฉพาะปริมาณน้ำตาลซึ่งจัดอยู่ในขั้นอันตรายกันเลยทีเดียว จากการเปิดเผยข้อมูลของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคที่ทำการทดสอบปริมาณน้ำตาลที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ชานมไข่มุก 25 แบรนด์ดัง (ไม่รวมร้านค้าย่อย) ปรากฏว่าปริมาณน้ำตาลที่พบนั้นสูงมากจนน่าตกใจโดยแบรนด์ที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำสุดอยู่ที่ 16 กรัม/แก้ว ส่วนแบรนด์ที่มีปริมาณสูงสุดมีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 74 กรัม/แก้ว</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าใน 1 วัน ไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา (2 ช้อนโต๊ะ) แปลงค่าคร่าวๆก็คือประมาณ 24 กรัม แต่ในชานมไข่มุก 1 แก้ว มีปริมาณน้ำตาลสูงมากจนเกือบจะเท่ากับเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดและบางแบรนด์ก็สูงเกินค่ามาตรฐานค่ามาตรฐานไปไกลมากจนน่ากังวล</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">อย่าลืมว่าคนส่วนใหญ่ดื่มชานมไข่มุกเป็นอาหารว่างหรือดื่มตบท้ายมื้ออาหาร เมื่อนับรวมกับปริมาณน้ำตาลจากชานมไข่มุกและน้ำตาลที่ผสมอยู่ในอาหารที่ทานเข้าไปในระหว่างวันแล้วจะกลายเป็นตัวเลขที่อันตรายสุดๆ</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">เมื่อได้รับปริมาณน้ำตาลที่สูงเกินความจำเป็นเข้าไปแล้ว ภาระในการบริหารจัดการน้ำตาลทั้งหมดจึงตกอยู่กับร่างกายซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มชนิดนี้มักจะละเลยหรือไม่สนใจดูแลสุขภาพเพราะคิดเพียงว่าร่างกายของตัวเองยังแข็งแรงดี บางรายก็คิดว่าดื่มเข้าไปก่อนแล้วค่อยออกกำลังกายเพื่อชดเชยก็ยังไหว แต่บอกเลยว่าการจะกำจัดปริมาณน้ำตาลที่มากขนาดนั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">เมื่อมีการเปิดเผยถึงปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่ในชานมไข่มุกก็เกิดคำถามว่า ‘จะดื่มชานมไข่มุกอย่างไรให้ปลอดภัย’ เรื่องนี้ก็ต้องถามย้อนกลับไปว่า ‘แล้วจะดื่มทำไม’ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มต้องห้าม เพียงแค่แนะนำว่าการได้รับปริมาณน้ำตาลที่สูงเกินไปโดยไม่มีการบริหารจัดการที่ดีจะทำให้ร่างกายต้องรับภาระหนักและเสื่อมสภาพเร็ว</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ดังนั้นถ้าอยากจะดื่มชานมไข่มุกก็แนะนำว่านานๆดื่มทีก็ไม่เสียหายหรืออาจจะสั่งให้ผู้ขายลดปริมาณน้ำตาลลง (ถ้าทำได้) เพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่ต้องรับภาระหนักเกินไป...</span>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-753625604571177712.post-67579385685274200202018-03-19T21:03:00.006-07:002022-08-30T22:02:55.236-07:00ครีมเทียม รสชาติกลมกล่อมที่นักดื่มต้องระวัง<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">จริงอยู่ว่าใน<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/04/coffee.html">กาแฟ</a>มีสารคาเฟอีนซึ่งถ้าได้รับมากเกินไปก็จะส่งผลต่อระบบประสาท แต่นั่นก็ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการดื่ม<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/04/coffee.html">กาแฟ</a> ทว่าสาเหตุที่ทำให้ร่างกายได้รับผลเสียจากการดื่ม<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/04/coffee.html">กาแฟ</a>ที่แท้จริงก็คือการเติมนมและน้ำตาลเข้าไปเพื่อเพิ่มรสชาติกลมกล่อมต่างหาก</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7Y1o367wvk69iMp_Wu1dO6QtU8WqbbGtz2xyBljJIF3OyXgVyXcq0HB58lUjsxKcatjYrWTSHinuS4XdDWnDLtGLacHKxhBKfB2KyTARVFOyZevaRyy8lNdWiYBPVZDmcnx1t8U7FRKxQ/s1600/Coffee-Creamer.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="อันตรายจากครีมเทียม" border="0" data-original-height="289" data-original-width="426" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7Y1o367wvk69iMp_Wu1dO6QtU8WqbbGtz2xyBljJIF3OyXgVyXcq0HB58lUjsxKcatjYrWTSHinuS4XdDWnDLtGLacHKxhBKfB2KyTARVFOyZevaRyy8lNdWiYBPVZDmcnx1t8U7FRKxQ/s16000/Coffee-Creamer.jpg" /></a></div>
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">แต่ไม่ว่าจะเป็นนมหรือน้ำตาลก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับสารปรุงแต่งที่เรียกว่า "ครีมเทียม" (บางคนเรียกว่าคอฟฟีเมตตามชื่อแบรนด์สินค้า) เพราะครีมเทียมเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/04/coffee.html">กาแฟ</a>มีรสชาติที่หวานมันกลมกล่อม แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าครีมเทียมนี่แหละที่เป็นตัวอันตรายและน่าขยะแขยงมาก</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ครีมเทียมมีทั้งชนิดที่เป็นผงและของเหลว ประกอบไปด้วยเจลาติน ช็อทเทนนิ่ง อิมัลซิไฟเออร์ สีคาราเมล ไซรัป กลิ่นวานิลลา โซเดียมเคซีเนตและคาราจีแนน (ฟังคำอธิบายจากในคลิป) แม้จะมีกลิ่นและรสชาติที่เหมือนนมก็อย่างที่เห็นว่าไม่มีนมเป็นส่วนประกอบเลย มีเพียงสารสังเคราะห์ทั้งนั้น</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">ไขมันในครีมเทียมนั้นเป็นไขมันทรานซ์ซึ่งเป็นมหันตภัยต่อร่างกาย ถ้าได้รับในปริมาณที่มากติดต่อกันเป็นเวลานานจะส่งผลให้ตับทำงานผิดปกติ มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็น<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/08/diabetes.html">โรคเบาหวาน</a> ความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะเรื้อรัง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด หลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจและมะเร็งตับ</span><br />
<br />
<span lang="TH" style="font-family: Tahoma; font-size: 12pt;">สรุปแล้วเจ้าครีมเทียมตัวนี้แม้จะมีรสชาติดีแต่ไม่คุ้มค่าเลยที่จะบริโภคเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นหากจะดื่ม<a href="http://bodycare108.blogspot.com/2016/04/coffee.html">กาแฟ</a>ในครั้งต่อไปก็ควรเลี่ยงครีมเทียม รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเติมนมข้นหวานๆและน้ำตาลแล้วหันมาดื่มกาแฟดำแทน แต่ถ้าทนความขมไม่ไหวก็ลองใส่นมวัวไขมันต่ำหรือนมถั่วเหลือรสจืดแทน</span><br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<iframe allowfullscreen="true" allowtransparency="true" frameborder="0" height="420" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/video.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FBodycare108%2Fvideos%2F1796575767047713%2F&show_text=0&width=560" style="border: none; overflow: hidden;" width="560"></iframe></div>Osakabehttp://www.blogger.com/profile/05051346314265492138noreply@blogger.com