นึกถึงผู้เฒ่าผู้แก่สมัยก่อนที่มีอายุยืนยาวเฉียดร้อยปีด้วยการกินพืชผักแบบสดๆที่หาได้ตามท้องทุ่ง ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเมื่อลองนำมาเปรียบเทียบกับผู้คนในสมัยนี้ที่อายุขัยสั้นลงด้วยการกินแต่อาหารแปรรูปและอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งด้วยความร้อนเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยที่เรียกว่าอาหารอารยธรรม
อาหารปรุงสุกที่ผ่านการเติมแต่งรสชาติช่วยทำให้การกินอาหารง่ายขึ้นก็จริง แต่ข้อเสียคือความร้อนกลับเป็นตัวทำลายยาวิเศษในธรรมชาติที่ช่วยซ่อมแซมอวัยวะในร่างกายที่เรียกว่าเอนไซม์ (Enzyme) สิ่งที่ได้จากการกินพืชผักที่ผ่านขั้นตอนนี้จึงมีเพียงกากใยที่ใช้ในกระบวนการขับถ่ายเท่านั้น
จำไว้ว่าร่างกายของเรามีส่วนที่เสื่อมและซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ตลอดเวลาโดยเอนไซม์หรือที่เรียกว่าเอนไซม์บำบัด หากมีเอนไซม์ไม่เพียงพอก็จะซ่อมแซมได้ไม่เต็มที่จนส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยตามมา ดังนั้นเมื่ออายุใกล้ 20 ต้นๆก็ควรเริ่มดูแลตัวเองด้วยการฝึกกินผักผลไม้สดๆได้แล้วจะได้ไม่ต้องป่วยและไม่ต้องเสียเงินซื้อเอนไซม์แพงๆมากิน
เอนไซม์คืออะไร
เอนไซม์เป็นกลุ่มโมเลกุลของโปรตีนที่เกิดจากกรดอะมิโนหลายชนิดมาเรียงต่อกัน หน้าที่ของเอนไซม์คือควบคุมกระบวนการทำงานของเซลล์จำนวนนับล้านๆเซลล์โดยเฉพาะการซ่อมแซมซึ่งเอนไซม์ถือเป็นหัวเรือใหญ่ในกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูอวัยวะที่เสื่อมสภาพจากหลายๆปัจจัย
ตามปกติร่างกายของเรามีกลไกในการซ่อมแซมตัวเองอยู่ตลอดเวลาโดยในช่วงที่ร่างกายยังคงหนุ่มแน่นร่างกายจะสามารถสร้างเอนไซม์ขึ้นมาอย่างเพียงพอได้เอง แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นกลไกการสร้างเอนไซม์ก็จะลดประสิทธิภาพลงจนไม่เพียงพอ ร่างกายจึงไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ดังเดิม
เอนไซม์เป็นพลังชีวิตที่มีอยู่ในพืชผักและผลไม้สดๆ อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าการนำพืชผักมาผ่านความร้อนจึงเป็นการทำลายเอนไซม์ที่มีจนหมดสิ้น ดังนั้นหากต้องการได้เอนไซม์จึงควรกินพืชผักแบบสดๆและควรกินก่อนอาหารอื่นเนื่องจากลำไส้ของเรามีส่วนที่ใช้ดูดซึมสารอาหารเพียง 2 คืบเท่านั้น
เหตุผลสำคัญที่คนไม่กินพืชผักแบบสดๆคือไม่อร่อยและเต็มไปด้วยสารพิษจากยาฆ่าแมลงซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก แต่ยังมีอีกวิธีที่จะทำให้ได้เอนไซม์คือการกินเอนไซม์ในรูปของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ข้อเสียคือราคาแพงมากๆและอย่าลืมว่าห้ามผสมในน้ำร้อนเด็ดขาดเพราะความร้อนคือตัวทำลายเอนไซม์